วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แกเร็ธ เบล กับ แมนฯยู

แกเร็ธ เบล ตกเป็นข่าวหนาหูกับแมนฯยูอีกครั้ง ในช่วงหลังๆ โดยข่าวถึงกับออกมาว่า เบล ตกลงย้ายมาแมนฯยูเรียบร้อย ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เป็นความจริง ... thumbnail 1 summary
แกเร็ธ เบล ตกเป็นข่าวหนาหูกับแมนฯยูอีกครั้ง ในช่วงหลังๆ โดยข่าวถึงกับออกมาว่า เบล ตกลงย้ายมาแมนฯยูเรียบร้อย ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เป็นความจริง เป็นขายข่าวของสื่อมากกว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ด้วยราคา 120 ล้านปอนด์อย่างที่เป็นข่าว ซึ่งถือว่าเยอะมาก ดีลนี้คงจะเกิดขึ้นยากพอสมควร แต่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ด้วยทีมในปัจจุบัน แมนฯยู ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ แกเร็ธ เบล เลย เพราะในตำแหน่งเดียวกันมีทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย อั๊ดนาน ยานาไซจ์ แอชชีย์ ยัง แม้กระทั้ง หลุยส์ นานี่ เงิน 120 ล้านปอนด์เอาไปซื้อตำแหน่งอื่น โดยเฉพาะซื้อกองหลังเสียดีกว่า

อย่างที่บอกไป ดีลนี้ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามันจะเป็นไปได้มันมีเหตุปัจจัยเพียงอย่างเดียวคือ ตระกูลเกลเซอร์จะขายทีม!! ซึ่งการได้เบลมา จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทีมอย่างมหาศาล โดยดูจากระยะหลัง ทั้ง เบล โรนัลโด้ แม้กระทั่ง เมสซี่ ก็ตกเป็นข่าวกับแมนฯยูมาแล้ว ประเด็นการขายทีมก็ดูมีมูลไม่ใช่น้อย

แม้ในตอนนี้ แมนฯยูในมือหลุยส์ ฟาน กัล จะกลับมาทำฟอร์มได้ดี และหุ้นของแมนฯยูก็กระเตี้องกลับมา หลังจากตกสุดขีดในยุคของ เดวิด มอยส์ แต่การไม่ได้เล่นแชมป์เปี้ยนลีก ก็ส่งผลอยู่บ้างเหมือนกัน

ซึ่งถ้าหากแมนฯยูไม่ได้เล่น ยูซีแอล อีกในปีนี้ ตระกูลเกลเซอร์คงคิดขายทีมแน่ และดีลแกเร็ธ เบล อาจจะมีความเป็นไปได้ แต่ดูแล้ว หลุยส์ ฟาน กัล ปลุกแมนฯยูขึ้นมาได้แน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้น การได้เบลอาจจะมีข้อเสีย มากกว่าข้อดี คือ อย่างหนึ่งที่แมนฯยูต้องเตรียม นอกจากค่าตัวมหาศาลแล้ว ยังต้องหาตำแหน่งให้ เบล เล่นด้วย นั่นหมายถึง อังเคล ดิ มาเรีย ฮวน มาต้า หรือแม้กระทั่ง อั๊ดนาน ยานาไซจ์ อาจต้องย้ายออกจากทีมไป

ซึ่งดูกันตามจริง ทั้ง มาเรีย มาต้า ฝีเท้าไม่เป็นรอง เบล เลยด้วยซ้ำ นี่คือข้อเสีย ได้อย่างเสียอย่าง

เงิน 120 ล้านปอนด์ถ้าเอาไปซื้อ เบลจริงๆ นักเตะที่แฟนๆแมนฯยูอยากได้มากที่สุดอย่าง แมตต์ ฮุมเมิลล์ คงเป็นไปได้อยากที่ย้ายมา เพราะ ค่าตัว ฮุมเมิลล์ คงไม่ถูกๆอย่างน้อยๆ 30 ล้านปอนด์ สำหรับกองหลังแชมป์โลก

และนอกจาก ฮุมเมิลล์ ที่จะไม่ได้แล้ว เอล ติเกรราดาเมล ฟัลเกา ขวัญใจคนใหม่ของแฟนๆ อาจจะอยู่กับแมนฯยูเพียงฤดูกาลเดียว เพราะ ค่าตัวของเขาอยู่ที่ 50 ล้านปอนด์!!

เปรียบกัน 120 ล้านปอนด์ ได้ แกเร็ธ เบล เพียงคนเดียว แต่ถ้าไม่ซื้อเบล จะได้ทั้ง ฮุมเมิลล์ ฟัลเกา แถมยังเหลือซื้อสตาร์ดีๆได้อีกอย่างน้อย 1 คน คุ้มไม่คุ้ม ก็ดูเอาครับ ถ้าให้เดาใจ บอร์ดบริหาร เบล อยู่ในความคิดพวกเขาอยู่แล้ว แต่เป็นทางสุดท้ายของพวกเขาจริงๆ

แกเร็ธ เบล กับ แมนฯยู มีอยู่สองประโยคที่จะอธิบายได้ คือ เป็นไปได้ แต่ยากกับ ยาก แต่เป็นไปได้เลือกเอาจะใช้แบบไหน …….



วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

5 อันดับกองกลางที่ดีที่สุดในเวลานี้

** บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557** โกเก้ เจ้าของฉายา   “ นิว ชาบี ”   คนนี้คือ หัวใจหลักในแดนกลางของ แอตฯมาริด ในเวล... thumbnail 1 summary
**บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557**

โกเก้

เจ้าของฉายา นิว ชาบี คนนี้คือ หัวใจหลักในแดนกลางของ แอตฯมาริด ในเวลานี้ ด้วยฟอร์มร้อนแรงทำให้ตอนนี้กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติสเปนไปแล้ว โดยในปัจจุบัน ลงเล่นให้ แอตฯมาดริดในลาลีกา 13 นัด ยิง 1 ประตู แอสซิสต์ไปแล้ว 8 ลูก เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอล 81.1% และนำเป็นจอมจ่ายบอลเยอะที่สุดใน ลาลีกา

โทนี่ โครส

1 ในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก หลังจากย้ายมาร่วมทีม รีลมาดริด เขาก็กลายเป็นนักเตะที่ มาดริด ขาดไปไม่ได้แล้ว ในปัจจุบัน ลงเล่นในลาลีกา 13 นัด ยิง  1 ประตู แอสซิตส์ 6 ลูก และมีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสูงถึง 93.5% เรียกได้ว่าเขาแทน ซาบี อลอนโซ่ ได้สบายๆเลย

ดิมิทรี ปาเยต์

จอมทัพฟอร์มแรง ของ โอลิมปิก มาแซกร์ ผู้พา โอเอ็ม นำเป็นจ่าฝูง ลีกเอิงอยู่ในขณะนี้ เรียกได้ว่า เขาคือ นักเตะฝรั่งเศสที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในเวลานี้ ด้วยผลงาน ลงเล่น 15 นัด ยิง 4 ประตู จ่าย 7 ลูก และเป็นนักเตะที่แอสซิสต์สูงที่สุดในลีกเอิงในตอนนี้ มีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลที่ 80.2 %

เควิน เดอ บรอยน์

1 ในกองกลางดาวรุ่งแห่งยุค ที่ไม่มีโอกาสได้ฉายแสงกับเชลซี ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้ โวล์ฟบวร์ก และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเวลานี้ ด้วยผลงาน ลงเล่นทุกถ้วยในเวลานี้ 20 นัด ยิง 4 ประตู แอสซิสต์ไป 11 ลูก เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอล 76.6 % นำเป็นอันดับ 1 ในการแอสซิสต์ของบุนเดสลีกาในเวลานี้

เชส ฟาเบรกัส

ด้วยสถิติในเวลานี้ นี่คือ กองกลางที่ดีสุดในปัจจุบัน ทั้งการจ่ายบอล ตัดบอล คุมเกม เชส ฟาเบรกัส กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิต ด้วยผลงานลงเล่นให้เชลซีทุกรายการ 19 นัด ยิง 2 ลูก แอสซิสต์ถึง 13 ลูก มีเปอร์การจ่ายบอล 88.7% เรียกได้ว่า เชลซีขาดใครก็ได้ แต่ขาด ฟาเบรกัส ไม่ได้!!!


วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คุ้มมั้ย 59.7 ล้านปอนด์

ยังไม่ทันจะจบฤดูกาล จริงๆก็ยังไม่ถึงฤดูกาลด้วยซ้ำ เริ่มมีเสียงอืออึ่งหนาหูออกมาเรื่อยๆว่า เงิน 59.7 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 4 พันล้านบาท สำหรับค... thumbnail 1 summary

ยังไม่ทันจะจบฤดูกาล จริงๆก็ยังไม่ถึงฤดูกาลด้วยซ้ำ เริ่มมีเสียงอืออึ่งหนาหูออกมาเรื่อยๆว่า เงิน 59.7 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 4 พันล้านบาท สำหรับค่าตัว อังเคล ดิ มาเรีย ที่แมนฯยูจ่ายไป เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

มันคงไม่ยุติธรรมกับ ดิ มาเรีย ถ้าเราจะมาวิจารณ์ว่าฟอร์มการเล่นของเขาคุ้มค่าตัวหรือไม่ เพราะเกมพรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านมาเพียง 13 นัด โดย ดิ มาเรีย ลงเล่น 9 นัด ทำ 3 ประตู แอสซิตส์ 6 ลูก หากดูจากภาพรวมแล้ว ถือว่าเขาทำผลงานได้ดีที่เดียวเลย

แล้วมันไม่คุ้มค่าตัวยังไง??

หากมองลึกลงไป ผลงานยิง 3 ประตูนั้นมาจาก 4 นัดแรกของ ดิ มาเรียที่ลงเล่น จากนั้น 5 นัดถัดมา เขาก็ยังไม่สามารถทำประตูได้อีก โดยเฉพาะในเกมใหญ่กับ เชลซีและแมนฯซิตี้ เขาทำผลงานไม่ดี พูดง่าย เล่นไม่ออก เสียงจุ๊บจิ๊บๆเรื่องไม่คุ้มค่าตัวนั้น จึงเริ่มมาตั้งแต่ช่วงนั้น

แต่เราๆคงลืมไปว่า อังเคล ดิ มาเรีย เป็น มิดฟิลด์!!! ไม่ใช่กองหน้า ตอนเล่นกับ รีล มาดริด ในลา ลีกา เขาก็มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูอยู่ 5-7 ลูกต่อฤดูกาล ซึ่งถือว่าเป็นปกติของเขาอยู่แล้ว

หลายๆคนคงหลงประเด็นไป…

ดิ มาเรีย นั้นจุดเด่นของเขาไม่ใช่การทำประตูเลย แต่เป็นการมีส่วนร่วมกับเกม หลายๆจัวหวะหลายๆประตูของแมนฯยูในซีซั่นนี้ มักมีจุดเริ่มมาจากเขา หรือไม่เขาก็ต้องมีส่วนรวมด้วยเสมอ แม้สถิติ ดิ มาเรีย จะเป็นคนที่ผ่านบอลแย่ที่สุดในบรรดานักเตะเกมรุกด้วยกัน แต่เขาก็เป็นคนที่มีสถิติ สร้างโอกาสทำประตู เยอะที่สุดในทีม

อีก 1 ประเด็นที่ทำให้มีประเด็นไม่คุ้มค่าตัว ก็คือ การเอา ดิมาเรีย ไปเทียบกับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อลด้วยค่าตัวน้อยกว่ามาก 35 ล้านปอนด์ แล้วตอนนี้ยิงไปแล้ว 8 ประตู นี่ก็เป็นการหลงประเด็นอีกของนักวิจารณ์ทั้งหลาย เพราะ อเล็กซิส คือ กองหน้า!!!!!!!!!!!

แถมสถิติการทำประตูของ อเล็กซิส ก็เยอะกว่า ดิ มาเรีย มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่างที่เราเห็นมาสมัยพวกเขาอยู่ ลาลีกา ถามว่าเงิน 35 ล้านปอนด์เหมาะสมมั้ย แน่นอนราคานี้กำลังดีสำหรับ อเล็กซิส  แต่มองกันที่ตารางอันดับ ตอนนี้แมนฯยูอยู่เหนือกว่าอาร์เซน่อลนะครับ

พูดกันตรงๆ 59.7 ล้านปอนด์ มันก็แพงเกินไป ค่าตัวของเขาควรอยู่ในระดับ 40 ล้านปอนด์กว่ากำลังดี

แต่เวลานี้ ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะมาบอกว่า อังเคล ดิ มาเรีย คุ้มค่าเงิน เพียงแค่การเล่นไม่ออกกับทีมใหญ่ไม่กี่นัด ไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการไซโคเขา หากจบฤดูกาลแล้ว ดิ มาเรีย ฟอร์มไม่ดีจริงๆ ถึงตอนนั้นค่อยออกมาวิจารณ์ก็ไม่มีใครว่าอะไร

แต่สำหรับผม นับตั้งแต่ที่ อังเคล ดิ มาเรีย ลงเล่นนัดแรก แมนฯยูก็เหมือนกับถูกปลุกขึ้นมา ดูมีชีวิตชีวา เล่นกันดีขึ้นกว่าตอนที่ยังไม่มีเขา บอกตรงๆเงิน  59.7 ล้านปอนด์ แลกกับการ Boost แมนฯยูขึ้นมาใหม่ ผมถือว่าคุ้มค่ามากสุดๆและถ้าแมนฯยูจบฤดูกาลด้วยท็อปโฟร์

นั่นจะไม่เรียกว่า คุ้ม อย่างเดียว แต่มันคือ กำไร ด้วยซ้ำไป…….

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ดอร์ทมุนด์ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยน!

แพ้ไปแล้ว 8 จาก 13 นัดในลีก ใครจะเชื่อละครับนี่คือ เสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เสือร้ายแห่งวงการในยุคนี้ คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมถึงแพ้เล... thumbnail 1 summary

แพ้ไปแล้ว 8 จาก 13 นัดในลีก ใครจะเชื่อละครับนี่คือ เสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เสือร้ายแห่งวงการในยุคนี้ คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงแพ้เละเทะ กันแบบนี้

นักเตะเจ็บหรือ?

หากย้อนกลับไปดู ความพ่ายแพ้ทั้ง 8 นัด ตัวเล่นของดอร์ทมุนด์ ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของพวกเขาจริง แต่ใช่ว่าชุดที่ลงเล่นจะห่วยแตก ยังไงก็ยังดีกว่าทีมที่ชนะพวกเขาอยู่ดี ยิ่งนัดหลังๆตัวหลักก็กลับมาครบ ทั้ง อิลกาย กุนโดกัน มาร์โก รอยส์ เฮนริก เมอคิทายาน เต็มสตรีมก็ยังไม่ดีขึ้น

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

แต่มันน่าแปลกตรงที่ ฟอร์มห่วยบรม นั้นเกิดเฉพาะกับเกมลีก กลับกัน กับบอลถ้วย ทั้ง เดเอฟเบ โพคาล ทั้ง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ดอร์ทมุนด์ชนะรวด โดยเฉพาะในยูซีแอล ชนะแบบสกอร์สวยหรูด้วย ชนะอาร์เซน่อล 2-0 อันเดอร์เลทช 3-0 กาลาตาซาลาย 4-0 เกมศูนย์ทั้งหมด มีนัดหลังที่เพิ่งแพ้อาร์เซน่อลไป

นักเตะดอร์ทมุนด์ ซีซั่นนี้ ก็ชุดเดิมจากรองแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ขาดไปเพียงคนเดียว คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เริ่มคุ้นๆไหมครับว่าเหมือนทีมไหน ใช่ครับ ลิเวอร์พูลนั่นเอง!! ที่เสีย หลุยส์ ซัวเรซ ไป หากเทียบบทบาท เลวานดอฟสกี้ กับ หม่อมเหยิน เลวานดอฟสกี้ อาจจะไม่มีบทบาทในเกมรุกเท่ากับที่ ซัวเรซ ทำกับลิเวอร์พูล

แต่!!! ฟุตบอลชนะกันด้วยประตู

3 ฤดูกาลหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คือ ดาวซัลโวสูงสุดของ ดอร์ทมุนด์ และแต่ละฤดูกาลเขายิงเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30 ประตู และหันกับมาดูฤดูกาลนี้ ดาวซัลโวของทีม คือ ปิแอร์ เอมเมอริก อูบาเมยัง 10 นัดในลีกยิงไปแค่ 3 ลูก ส่วนตัวตายตัวแทนของเลวานดอฟสกี้ อย่าง ชิโร อิมโมฟิเร่ เล่น 8 นัดยิง 2ลูก

ซึ่งยังห่างไกลกับ เลวานดอฟสกี้ มาก

ดอร์ทมุนด์ นั้นถือว่ากองกลางที่ไม่เป็น 2 รองใคร พร้อมจะทำเกมสวยได้เสมอ ทั้ง มาร์โก รอยส์ ชินจิ คากาวะ อิลกาย กุนโดกัน นูริน ซาฮิน เฮนริก เมอคิทายาน แต่ละรายความสามารถเหลือล้น ขาดแต่เพียง กองหน้า นักเตะที่มีอยู่พูดได้เลยว่า แทน เลวานดอฟสกี้ ไม่ได้ !!

แต่..มันมีจุดหักมุม ครับ

เรื่องกองหน้าเป็นเพียงปัญหานึงของ ดอร์ทมุนด์ แต่อีกหนึ่งปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามได้นั้นคือ ถูกจับทาง!!! ใช่แล้วครับ แท็คติกของ เจอร์เก้น คลอปป์ ถูกจับทางได้แล้ว ดูได้เลยครับในแต่ละเกม

ดอร์ทมุนด์ ครองบอลบุกตามสไตล์ โดนสวนตูมเข้า ตูมเข้า คือ มันถูกจับทางได้จริงๆ แถม เจอร์เก้น คลอปป์ ก็ไม่อาจแก้เกมหรือหาแท็คติกที่จะทำให้ เสือเหลือง กลับมามีเขี้ยวเล็บอีกได้ด้วย ด้วยฟอร์มที่แพ้กาวรูดแบบนี้ หากเป็นสโมสรอื่น คงหาโค้ชใหม่กันไปแล้ว

แต่นั่นก็เป็นเพราะ เจอร์เก้น คลอปป์ ยังมีบุญเก่าที่สะสมไว้มาหลายปี แต่หากมองที่ตารางคะแนนบุนเดสลีก้าในปัจจุบัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ และมันคงถึงเวลาที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้วสำหรับ ดอร์ทมุนด์ และด้วยความที่เป็นทีมใหญ่ หากดอร์ทมุนด์ ยังคงรักษาสถิติแพ้เละเทะต่อไปอีก และยังมีผู้จัดการทีมชื่อว่า เจอร์เก้น คลอปป์ คุมทีมต่อ เราก็ต้องพูดเลยว่าบอร์ดบริหารดอร์ทมุนด์

    .......ใจหิน มาก........