วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มานูเอล เปเยกกินี่ เส้นทางรักษาเก้าอี้

มานูเอล เปเยกกินี่ หลังจากการพ่ายแพ้คาบ้าน ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ต่อ บาร์เซโลน่า ไป 1-2 ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้า ทำท่าจะต้องตกรอบ แชมป์เ... thumbnail 1 summary

มานูเอล เปเยกกินี่
หลังจากการพ่ายแพ้คาบ้าน ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ต่อ บาร์เซโลน่า ไป 1-2 ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้า ทำท่าจะต้องตกรอบ แชมป์เปี้ยนลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

นับเป็นปีที่  4 ติดต่อกันแล้ว ที่แมนฯซิตี้ได้เข้าไปเล่นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก แต่ยังไม่เคยผ่านเข้ารอบได้เกิน รอบ 16 ทีม ได้เลยสักครั้ง ทั้งที่ดูจากขุมกำลังแล้ว ไม่ได้ด่อยกว่ายักษ์ใหญ่ในยุโรปเท่าไหร่ เหตุผลก็น่าจะมาจาก การจัดอันดับ Ranking ทีมที่ทำผลงานในยุโรปได้ดี ทีมยักษ์ใหญ่สีฟ้านี้ จึงมัก ไม่ได้ถูกจับเป็นทีมวาง ส่งผลให้ต้องถูกจัดอยู่ในกลุ่มยากเสมอๆ

แต่นั่น ไม่ใช่เรื่องราวที่จะมาดูกัน วันนี้เราจะมาดูกันถึงสถานะเก้าอี้นายใหญ่แมนฯซิตี้ ของ มานูเอล เปเยกกินี่ ที่ทำท่าจะถูกตะเพิดในไม่ช้าไม่นาน เพราะในเวลานี้ ผลงานของทีม ผีเข้าผีออก ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือยช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว ยิ่งสถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ก็ไม่สู้จะดี

ตามหลัง เชลซี 5 แต้ม ทั้งที่เคยขึ้นไปทาบคะแนนเท่ากันมาแล้ว แต่กลับยืนระยะไม่ได้เป๋ไปเอง ทำท่าจะป้องกันแชมป์ไม่ได้ด้วย ยิ่งการพ่ายบาร์ซ่าเมื่อวานที่ผ่านมา ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

คนที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆก็คือ ผู้จัดการทีม  การพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว กลายเป็นดาบ 2 คม ให้กับ มานูเอล เปเยกกินี่ ที่ทำให้ซีซั่นต้องกดดันตัวเอง ต้องทำผลงานไม่ให้ต่ำกว่าซีซั่นที่แล้ว

อย่างน้อยๆ 2 ถ้วยที่ทำผลงานต่ำกว่าซีซั่นที่แล้ว ปีที่เป็น แชมป์ลีกคัพ ปีนี้ตกรอบ 4 เอฟเอคัพ ปีนี้ตกรอบ 4 แต่ปีที่แล้วเข้าถึงรอบ 6 ส่อแววที่จะวืดหมดทุกถ้วยในปีนี้

สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ถูกตะเพิดออกจากเก้าอี้ หลังจากแพ้ วีแกน ในนัดชิงเอฟเอคัพ ทำให้วืดทุกแชมป์เมื่อปี 2012-13 ทั้งๆที่ซีซั่นก่อนหน้า มันชินี่ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ได้เป็นสมัยแรก

เห็นได้ชัดว่า บอร์ดบริหารเรือใบ ต้องการความต่อเนื่องและ ความสำเร็จในรายการ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ในที่นี้อาจจะไม่ต้องถึงคว้าแชมป์ได้ แต่ก็น่าจะเข้ารอบลึกๆได้เพราะขุมกำลังก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าทีมไหน

ดูเหมือนว่าการป้องแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้จะเป็นหนทางเดียว ที่จะทำให้ เปเยกกินี่ จะรักษาเก้าอี้สีฟ้าไว้ได้ หรือต้องพลิกฟ้าคว้าดาว บุกไปถล่มบาร์เซโลน่าที่ นู แคมป์ เมื่อเปิดทางการแชมป์ยุโรปสมัยแรกให้ได้ นั่นแหละ เขาถึงจะได้ผูกไทด์สีฟ้ายืนคุมลูกทีมต่อในซีซั่นหน้าต่อได้ ..

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รอย คีน เป็นคำตอบสุดท้าย..ครับ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน แมนฯยูออกไปแพ้ให้กับ สวอนซี 2-1 เป็นการพ่ายแพ้ นัดแรกในรอบ 8 นัดของพลพรรคตราอสูรแดง แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอยู่ในแผง... thumbnail 1 summary


เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน แมนฯยูออกไปแพ้ให้กับ สวอนซี 2-1 เป็นการพ่ายแพ้ นัดแรกในรอบ 8 นัดของพลพรรคตราอสูรแดง แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอยู่ในแผงอำนาจ TOP4 อันเนื่องมาจากการที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้ ถือว่าโชคดีสำหรับแมนฯยูที่ยังคงอยู่ในเส้นทางไปเล่นเกมยุโรป

ใครจะไปยูซีแอล ไม่ใช่ประเด็นที่จะมาวิเคราะห์ในวันนี้ แต่เราจะวิเคราะห์ถึงการเล่นของ แมนยูฯ ในนัดล่าสุดกัน ถ้าบรรดาสาวกแฟนผี ได้รับชมเกมการแข่งขันกันจริงๆ ก็จะเห็นแล้วว่า นัดที่ผ่านมา เล่นดีมากในรอบหลายนัด การเคลื่อนที่ การขึ้นบอล ต่อบอล ดูรวดเร็วกระปรี้กระเป่า อย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุอาจจะพิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็น่าจะมาจาก การจัดทัพที่ลงรูปลงรอยของ บอสคางทูม ในรอบหลายๆๆๆนัด ที่เอา อันเดร์ เอร์เรร่า  ลงมาเล่นมิดฟิลด์ และ ดัน เวนย์ รูนีย์ ขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์ตามธรรมชาติ พร้อมกับดร็อป ราดาเมล ฟัลเกา ผลการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้แมนฯยูเล่นดีผิดหูผิดตา

ดูได้จากประตูขึ้นนำของ ปีศาจแดง การหลุดทะลุขึ้นมาของ ลุก ชอว์ ทางซ้ายก่อนจะปาดเข้ากลางให้ เวนย์ รูนีย์ แตะกลับมาให้ อังเคิล ดิ มาเรีย จ่ายมาให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ที่ยืนโล่งๆซัดเข้าไป อย่างงดงาม กลายเป็นประตูที่มีการประสานงานอันยอดเยี่ยมประตูนึงในซีซั่นนี้

แต่หลังจากนำได้ไม่ถึง 2 นาที แมนฯยูโดนตีเสมอ จากการโฉบเข้ามายิงของ คิ ซุง ยอง ที่มาจากการเปิดของอดีตเด็กหงส์อย่าง จอนโจ เชวีย์ ว่าไปลูกนี้ต้องยอมจริงๆ เพราะเป็นการแบบไซส์เข้าหาโกล์แบบได้น้ำหนักเหมาะเจาะจริงๆ ทำให้ประกบตัวได้ยากด้วย

ถึงตรงนี้อ่านมา หลายคนคงอะไร เกี่ยวกับหัวข้อบทความตรงไหนฟระ!! ลูกที่สองที่แมนฯยูเสียประตูจนนำพาให้พ่ายแพ้ไปเนี่ยแหละ เกี่ยวเต็มๆๆๆ แมนฯยูเริ่มต้นครึ่งหลังด้วยการพับสนามบุก เรียกได้ว่า พับทบแล้วทบเล่า พับอยู่ข้างเดียว แต่ก็ทำประตูสวอนซีไม่ได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงทิ้งยิงขว้าง ยิงเป๋แบบไม่น่าให้อภัย แถมกองหลังสวอนซีอย่าง แอชลีย์ วิลเลี่ยม ยังมาองค์ลงอีก

บุกอยู่ข้างเดียวจนถึงกระทั่งนาทีที่ 72 สวอนซีโต้กลับ คิ ซุง ยอง จ่ายบอลให้ จอนโจ เชวีย์ ที่ยืนอยู่ว่างงงงง เยื้องทางซ้ายหัวกระโหลก ซัดตูมเดียว แฉลบ แอชลีย์ วิมเลี่ยม เข้าประตูไป พอจะตะงิดๆหรือยังครับ ว่าเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องยังไง

พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่รับผิดชอบของใคร?? กองกลางตัวรับ หาย ยังไงครับ ดาเลย์ บลินด์ หลุดตำแหน่งถล่ำลำลึกไปทางทางขวา เปิดพื้นที่เป็นไร่ๆ ให้คู่แข่ง บลินด์ ถูกยกย่องเป็นอย่างมากในเรื่องการคุมเกม ออกบอล เก็บบอล แต่เรื่องเกมรับ มีหลายครั้งๆที่เขาหลุดตำแหน่ง เข้าบอลไม่ได้เปรียบเหมือน ไมเคิล คาร์ริก พูดง่ายๆเขายังไม่นิ่งเท่าคาร์ริก

แมนฯยู มีมิดฟิลด์เกมรับสไตล์ Deep-lying Playmaker ทั้ง ไมเคิล คาร์ริก ดาเลย์ บลินด์  แต่ไม่มีสไตล์ Defensive โดยเฉพาะเลย!!  เชลซีมี เนมานย่า มาติช ที่คอยเป็นตัวกวาดบอล แท็คเกิ้ลหนักๆ ให้ เช่นดียวกับแมนฯซิตี้มี เฟอร์นานโด

บอสคางทูม ก็เคยบอกเอาไว้ว่า เกมรับของเขาทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เสียประตูบ่อยๆก็เพราะ บอลมันมาถึงกองหลังเร็วเกินไป ไม่มีคนชะลอ ด้วยเหตุนี้บางที ทีมควรจะมีมิดฟิลด์ตัวรับแบบ Aggressive เฉพาะทางอยู่ในทีมและนับจาก รอย คีน แมนฯยูก็ไม่มีนักเตะประเภทนั้นอยู่ในทีมเลย


ฉะนั้น มิดฟิลด์ตัวรับแบบ รอย คีน อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายให้กลับแท็คติกของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็เป็นได้..