วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

5 สามประสานในแนวรุก ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในเวลานี้

3 ประสานในแนวรุก ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในลีกชั้นนำของยุโรปอยู่ในเวลานี้ จะมี BigThree จากทีมไหนส่งเข้าประกวด วันนี้เรามี 5 ทรีโอ ที่ ย... thumbnail 1 summary
3 ประสานในแนวรุก ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในลีกชั้นนำของยุโรปอยู่ในเวลานี้ จะมี BigThree จากทีมไหนส่งเข้าประกวด วันนี้เรามี 5 ทรีโอ ที่ยิงกระจายนับเฉพาะในลีกมากที่สุดมาให้ดูกัน


Neymar Suarez  Massi 55 ประตู


ภาพ instagram/neymarjr


บิ๊กทรี ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ฤดูกาลนี้ยิงรวมกันไปแล้ว 55 ลูก แบ่งเป็น มหาเทพสูงสุด ลิโอเนล เมสซี่ 25 ลูก เหยินทองคำ หลุยส์ ซัวเรส 22 ลูก และ เนย์มาร์ ที่ยิงไป 8 ลูก นี่ยังน้อยกว่าสถิติสูงสุดของพวกเขา 90 ลูก เมื่อซีซั่นที่แล้ว อยู่มากทีเดียว



Callejon Mertens Insigne  40 ประตู

สถานะการณ์สร้างวีรบุรุษของจริง เมื่อต้นฤดูกาล เสียทั้ง กอนซาโล่ ฮิกัวอิน ไปให้ยูเวนตุส ตัวแทนอย่าง อคาดิอุส มิลิค ก็ดันเจ็บยาวอีก แต่กลายเป็น ดรีส์ เมอร์เท่น ที่ขยับมาเป็นตัวถล่มประตูแทน ซัด 20 ลูก ตามาด้วย ลอเลนโซ่ อินซิเย่ 12 ลูก และ โฆเซ่ กาเยฆ่อน 8 ลูก


DiMaria Cavani Moura  39 ประตู

ใครๆก็คิดว่า ซลาตัน จะทิ้งช่องโหว่ไว้ให้กับทีมเมืองหลวงแห่งปารีส แต่เปล่าเลยเมื่อ เอดิสัน คาวานี่ โชว์ฟอร์ม จนทำให้แฟนๆแทบลืมไปเลยว่าเคยมี ซลาตัน โดยกองหน้าอุรุกวัย กดมิดด้าม 27 ลูก ตามมาด้วย ลูคัส มูร่า 9 ลูก และน้องใหม่อย่าง จูเลี่ยน ดรักเลอร์ 3 ลูก


Perotti Ezeko Salah  38 ประตู

เกมรุกของ หมาป่า โรม่า จัดจ้านเหลือเกินในฤดูกาลนี้ ยิงเยอะที่สุดในลีก โดยยิงไปถึง 64 ลูกแล้วในเวลานี้  มาจาก เอดิน เซโก้  21 ลูก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 10 ลูก และ ดีเอโก้ แปร็อตติ 7 ลูก ยิงกันกระจายจนพาโรม่าคั่วแชมป์กับยูเวนตุสอยู่ ณ ตอนนี้


Son Kane Eriksen 32 ประตู


ทรีโอ เบอร์1 ของพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ นำโดย จ้าวพายุเฮอร์ริเคน แฮร์รี่ เคน ที่ซัดไปแล้ว 19 ลูกในลีก ตามาด้วย ซอน เฮือง มิน 7 ลูก และ คริสเตียน อิริคเซ่น 6 ลูก และจาก 55 ประตูในลีกของสเปอร์ สามคนนี้ก็เอาไปแล้วเกินครึ่ง


คลิก >> 5 นักเตะที่มีโอกาสทุบสถิติค่าตัวสูงสุดในซัมเมอร์นี้


วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

5 มือกาวที่จะทำให้แมนฯยูลืม ดาบิด เด เคอา

ข่าวเรื่องการย้ายทีมของ ดาบิด เด เคอา กับ รีล มาดริด ประทุขึ้นมาอีกครั้งในเวลานี้ และดูเหมือนจะรอเพียงเวลาเท่านั้นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะรั้งเข... thumbnail 1 summary
ข่าวเรื่องการย้ายทีมของ ดาบิด เด เคอา กับ รีล มาดริด ประทุขึ้นมาอีกครั้งในเวลานี้ และดูเหมือนจะรอเพียงเวลาเท่านั้นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะรั้งเขาไว้ได้นานแค่ไหน เรามี 5 ตัวเลือกที่ดีพอที่จะทำให้แฟนๆผีแดง ลืม ดาบิด เด เคอา ไปได้ มาดูกัน

Jan Oblak


ภาพ twitter/Atleti

ผู้รักษาประตูมือ 1 ของ ลาลีกา สเปน ในเวลานี้ สร้างชื่อมาอย่างเงียบๆกับ แอตฯ มาดริด เขาช่วยให้ทีมตราหมี เสียประตูยากมากที่สุดทีมหนึ่งของยุโรป ด้วยความที่ไม่ใช่คน สเปน คงจะไม่ถูกหมายตาจาก รีล มาดริด อีกแน่นอน



Timo Horn


ภาพ instagram/timohorn_1

ครั้งนึง ผีแดง เกือบมีผู้รักษาประตูเป็นชาวเยอรมันมาแล้ว มาครั้งนี้ก็อาจจะได้มีจริงๆ ติโม ฮอร์น ผู้รักษาประตูดาวรุ่งของเยอรมัน ถูกเก็งกันว่าจะเป็นทายาท โกลทีมชาติเยอรมัน ในยุคถัดไป โดนกองหลังแมนฯยู ปั้นสักปี สองปี เป็นมือ 1 ของโลกได้ไม่ยาก

Rui Patricio


ภาพ instagram/rpatricio1

คนบ้านเดียว แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ด้วยความที่เป็นชาวโปรตุเกสบ้านเดียวกับ อาจารย์มู่ และ มีดีกรีด้วย แชมป์ยูโร 2016 ติดทีมยอดเยี่ยมด้วยนะ ฝีมือก็ระดับท็อปคนนึง ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ แมนฯยูไนเต็ด



Samir Handanovic


ภาพ samir Handanovic

เป็น 1 ในบุคคลในข่าวทุกรอบ ที่ถูกเก็งกันว่าจะมาแทน เด เคอา ผู้รักษาประตูของ อินเตอร์ มิลาน ที่ถูกยกย่องเรื่องปฎิกิริยาที่ ไม่ได้ด่อยกว่าใครเลย ด้วยวัย 32 ปี ประสบการณ์เยอะแยะ เป็นที่ อาจารย์มู่ ชอบด้วย ต้องจับตามองรายนี้ให้ดีเลย


Joe Hart


ภาพ Joe Hart

ในเมื่อไม่เป็นที่ต้องการของ เรือยอร์ชสีฟ้า ฉะนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่ แมนฯยูไนเต็ด จะดึงตัวมาร่วมทีม แม้ฝีไม้ลายมือ จะดูด้อยกว่า ลามะ เด เคอา อยู่ครึ่งขั้น แต่ด้วยความที่เป็นคนอังกฤษ ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ค่าตัวก็ไม่น่าแพงมากด้วย


คลิก >> 5 สามประสานในแนวรุก ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในเวลานี้
คลิก >> 5 ตัวตายตัวแทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
คลิก >> 5 นักเตะที่มีโอกาสทุบสถิติค่าตัวสูงสุดในซัมเมอร์นี้ NEW!!

วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

โค้งสุดท้าย ชิงอันดับ 4 พรีเมียร์ลีก (ภาคลิเวอร์พูล)

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย เหลืออีกประมาณ 10 นัดก็จะจบฤดูกาล ตำแหน่งแชมป์ ถ้ามนุษย์ต่างดาวไม่เยือนโลกเสียก่อน คงหนีไม่พ้น เชล... thumbnail 1 summary
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย เหลืออีกประมาณ 10 นัดก็จะจบฤดูกาล ตำแหน่งแชมป์ ถ้ามนุษย์ต่างดาวไม่เยือนโลกเสียก่อน คงหนีไม่พ้น เชลซี เป็นแน่แท้ แต่ที่ยังไม่นิ่ง แน่นอน เห็นจะเป็นอันดับ 4 พื้นที่สุดท้าย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก 

ฟันธงไปก่อน !!

อันดับ 1 คือ เชลซี 
อันดับ 2 คือ สเปอร์
อันดับ 3 คือ แมนฯซิตี้

ง่ายๆคือ 3 ทีมนี้ถือตั๋วพิเศษไปลุยถ้วยใหญ่ของยุโรปแน่นอน ทำให้เหลือที่ว่างอีกหนึ่งที่ ให้ ลิเวอร์พูล แมนฯยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ต้องแก่งแย่งกัน





ตารางคะแนน ณ เวลานี้ ก่อนพักเบรกทีมชาติ 19 มีนาคม




อันดับ 4 คิอ ลิเวอร์พูล มี 56 แต้ม แต่แข่งมากกว่า แมนฯยู ที่มี 52 แต้ม และ อาร์เซน่อล ที่มี 50 แต้ม อยู่ 2 นัด ถือว่าออกได้ทั้งสามหน้า ต้องลุ้นก็ไปแบบนัดต่อนัด ใครพลาดมีสิทธิ์ถูกทิ้งไว้กลางทางได้


- ลิเวอร์พูล 

พญาหงส์ แห่ง แอนฟิลด์ ได้เปรียบกว่าเขาเพื่อน เพราะตกรอบบอลถ้วยไปหมดแล้ว มีแต่โปรแกรมลีกให้เล่นเพรียวๆ 9 นัด มีคะแนนให้เก็บอีก 27 คะแนน




ดูจากโปรแกรม 9 นัดที่เหลือแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นงานเบาสำหรับ พญาหงส์แดง เพราะเจอแต่ทีมที่ชื่อชั้นต่ำกว่า จะมีงานยากแค่ไม่กี่นัด แต่อย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล ยุค เจอร์เก้น คลอปป์ มีความพิเศษใส่ไข่ 2 ฟอง อยู่อย่างนึง คือ เวลาเจอทีมเก่งตัวเองก็จะเก่งตาม และเวลาเจอทีมอ่อนตัวเองก็จะอ่อนตามด้วย

ตามสถิติ 10 นัดที่เจอกับทีม TOP6 ลิเวอร์พูล เก็บไปเนื้อๆ 20 แต้ม เทียบกับ 10 นัดเมื่อเจอทีมที่ต่ำกว่าอันดับ 6 กลับเก็บไปเพียง 19 คะแนน เท่านั้น! ดังนั้นโปรแกรม 9 นัดที่เหลือของลิเวอร์พูล อาจจะไม่ง่ายก็เป็นได้

- นัดที่ 30 เจอ เอฟเวอร์ตัน  
แม้ว่า เอฟเวอร์ตัน จะอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่เมื่อมา แอนฟิลด์ ที่ไรก็โดนเคี้ยวอร่อยออกไปทุกรอบ ให้ลิเวอร์พูล 3 แต้ม

- นัดที่ 31 เจอ บอร์นสมัธ 
นัดแรกที่เจอกัน ลิเวอร์พูล ออกไปแพ้มา 3-4 แต่เวลานี้ บอร์ทสมัธ รอดตกชั้นค่อนข้างแน่ ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว ให้ลิเวอร์พูล 3 แต้ม

- นัดที่ 32 เจอ สโต๊ก
เดอะ หม้อแกง พักหลังมักทำได้ดีกับทีมใหญ่ ยัน ซิตี้ ได้ แพ้สูสีกับ เชลซี และมีทีเด็ดที่ลูกกลางอากาศ ที่เป็นจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล อาจมีเซอร์ไพรซ์ ให้ลิเวอร์พูล 1 แต้ม

- นัดที่ 33 เจอ เวสบรอมวิช 
เป็นทีมแสลงของ ลิเวอร์พูล อีกทีมนึง 6 นัดหลังที่พบปะกัน พญาหงส์ ชนะได้แค่ 2 นัด และเวสบรอม มีดีที่ลูกเซตพีซ ที่ลิเวอร์พูลไม่ชอบด้วย ให้ลิเวอร์พูล 1 แต้ม

- นัดที่ 34 เจอ คริสตัล พาเลซ
อีกทีมจอมแสบของ หงส์แดง และกำลังหนีตกชั้นอยู่ด้วย แต่เมื่อดูโปรแกรมของ พาเลซ ก่อนจะเจอ ลิเวอร์พูล แล้วไม่น่าจะรอดมาก่อนแล้ว ให้ลิเวอร์พูล 3 แต้ม

- นัดที่ 35 เจอ วัตฟอร์ด
น่าจะเป็นเกมที่ง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะ เมื่อถึงเกมวันนั้น วัตฟอร์ด น่าจะรอดตกนั้นแบบแน่นอนไปแล้ว เล่นแบบประคองตัวไป ให้ลิเวอร์พูล 3 แต้ม

- นัดที่ 36 เจอ เซาแธมป์ตัน
ก้างชิ้นโตที่สุดในโปรแกรม 9 นัดที่เหลือ หงส์แดง ไม่ชนะ นักบุญ มาปีกว่าๆแล้วรวมทุกรายการ เล่นทีไรกลายเป็นแพ้ทาง ให้ลิเวอร์พูล 1 แต้ม

- นัดที่ 37 เจอ เวสต์แฮม
อีกหนึ่งทีมที่ ลิเวอร์พูล ไม่ชอบ ย้อนกลับไปชัยชนะเหนือขุนค้อน ต้องย้อนไปถึง 2 ปีที่แล้ว 5 นัดหลัง เวสต์แฮมชนะได้ 3 เสมอ 2 ให้ลิเวอร์พูล 0 แต้ม

- นัดที่ 38 เจอ มิดเดิลโบรช์
มาถึงนัดนี้ โบโร่ น่าจะตกชั้นไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นการเล่นในบ้านของ ลิเวอร์พูล เพื่อจบฤดูกาลแบบสวยๆ ให้ลิเวอร์พูล 3 แต้ม

สรุป 9 นัดที่เหลือ มีให้เก็บ 27 แต้ม คาดการณ์ว่าจะได้ 18 แต้ม

รวมกับของเดิมที่มีอยู่ 56 + 18 = 74 แต้ม

***บทความหน้า ไปต่อกับอีก 2 ทีมที่เหลือ

วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไม่อยากสร้าง ก็ต้องสร้าง!!

อยู่ในฟอร์มกระท่อนกระแท่นมากเหลือเกิน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มหาเรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ ที่ล่าสุดกระเด็นตกรอบย... thumbnail 1 summary
อยู่ในฟอร์มกระท่อนกระแท่นมากเหลือเกิน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มหาเรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ ที่ล่าสุดกระเด็นตกรอบยูซีแอล แพ้ โมนาโก 3-1 สกอร์รวม 6-6 ซิตี้ตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล ไปแบบช็อคๆ 

ด้วยผลงานสุดไฉไลนี้ ทำให้ บิ๊กเหม่ง เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เสียรังวัดไปไม่น้อย จริงๆเสียเยอะเลยล่ะ เพราะนับตั้งแต่คุมทีมมา บาร์ซ่า บาเยิร์น เขาไม่เคยพาทีมตกรอบ 16 ทีม ถ้วยใบใหญ่ อย่างน้อยๆรอบ 8 ทีมทุกปี



ภาพจาก twittet/ManCity


เริ่มต้นฤดูกาล เป๊ป พา แมนฯซิตี้ ชนะ 10 นัดรวดทุกรายการ ใครก็ต่างคิดว่า พรีเมียร์ลีก คงมิอาจสร้างปัญหาให้กับความอัจฉะริยะของ บิ๊กเหม่ง ได้


แต่ทว่า ลีกนรกแตกแห่งนี้ ดูเหมือนจะอ่อนน้อมให้ เป๊ป ตายใจเสียก่อน ก่อนที่จะเผยถึงความโหดเหี้ยมที่แท้จริง ของลีกอันดับ1ของโลกให้เห็น 


เล่นไปเล่นมา แผนชนะ10ทิศ ติกิ-ตาก้า ของ เป๊ป เริ่มใช้ไม่ได้ดีอย่างที่เคยเป็น ใจความหลักใหญ่ของ ติกิ ตาก้า ก็คือการ ครองบอล ส่งบอล ซึ่งผู้เล่นแมนฯซิตี้ก็ทำได้ตามแผน 


เห็นจากสถิติ ที่ แมนฯซิตี้ เป็นทีมที่มี %การครองบอลมากที่สุดในลีก 60% ส่งบอลกันแม่นที่สุดในลีก 84% ส่งบอลเฉลี่ย 594 ครั้งต่อเกม เป็นอันดับสองรองจาก ลิเวอร์พูล แค่ 1 ครั้ง

ดูจากสถิติแล้ว นักเตะแมนฯซิตี้ ก็เล่นได้ตามแผนการของ เป๊ป ตามทว่าปัญหา คือ "มันไม่มีประสิทธิภาพ" 


ย้อนอดีต 2 สโมสรหลังของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เขามีเหล่านักเตะชั้นนำของโลก ที่คอยตอบสนองกับ แผนการเล่นของเขา ต่างจาก แมนฯซิตี้ ที่ดูกันตามเนื้อผ้าแล้ว คุณภาพนักเตะเป็นรอง 2 ทีมนั้น จะเรียกได้ว่า คนละเกรดก็ได้


เริ่มจากผู้รักษาประตู บิ๊กเหม่ง ปลด โจ ฮาร์ท กลางอากาศ โดยให้เหตุผลว่า โจ ฮาร์ท ใช้มือเป็นอย่างเดียวใช้เท้าไม่เป็น หมายถึง การเปิดเกมด้วยเท้า มือ1ทีมชาติอังกฤษทำได้ไม่ดีพอ เป๊ป เลยดึง เคลาดิโอ บราวโว่ มาแทน แต่กลับตาลปัตร เคลาดิโอ บราวโว่ ใช้เท้าเป็นแต่ใช้มือไม่เป็น! หลายนัดที่เสียประตูแบบไม่น่าเสีย


มาที่กองหลัง สังเกตุได้จากทุกสโมสรที่คุม บิ๊กเหม่ง ไม่ต้องการกองหลังประเภท พิตบูล ดายฮาร์ด อะไรขนาดนั้น เขาต้องการกองหลังมีชั้นเชิงหน่อย จ่ายบอลได้ดี 


และตามธรรมเนียมของ บิ๊กเหม่ง เขาจะต้องดัดแปลง มิดฟิลด์ตัวรับ มาเล่นกองหลัง ทุกทีมที่คุม เช่น ฮาเวียร์ มาสเคราสโน่ ฆาบี มาร์ติเนซ มาที่แมนฯซิตี้ ผู้โชคดีก็คือ แฟร์นานดิญโญ ที่ถูกจับไปเล่น แม้กระทั้งแบ็คซ้าย ขวา


และถือว่างานช้างงานนึงของ บิ๊กเหม่ง เมื่อ แวงซอง กอมปานี ผู้เป็นเสาหลักของ เรือใบสีฟ้า ดันมาเจ็บหนักในฤดูกาลนี้ 


ตัวใหม่ที่ซื้อมาอย่าง จอห์น สโตน ดูเหมือนจะเข้าท่าเข้าทางอยู่ แต่ขาดความเฉียบในระดับโลก นิโคลาส โอตาเมนดี้ ก็มิได้เล่นในแบบที่แฟนๆซิตี้ คาดหวัง การจับเอา อเล็กซ์ โคลารอฟ แบ็กซ้ายมายืนเซ็นเตอร์ ยิ่งแล้วใหญ่ เลยทีเดียว


แบ็ก 2 ข้างก็อยู่ในขั้นโคม่า อายุเกิน 30 กันทุกผู้ตัวคน พาโบล ซาบาเลต้า กาเอล คลิชี่ บาการี่ ซานย่า กำลังเข้าสู่ปลายอาชีพการค้าแข้ง

กองกลาง 3 มิดฟิลด์ที่คอยคุมจังหวะเกม  คือ ปัญหาใหญ่ที่สุด ของ เป๊ป โดยเฉพาะ มิดฟิลด์ตัวโฮลบอล ตอนอยู่ บาร์ซ่า เขามี "เซอร์จิโอ บุสเกตส์" ตอนอยู่บาเยิร์น บาเยิร์น เขามี "โทนี่ โครส และ ซาบี อลอนโซ่" 


มาที่ แมนฯซิตี้ เป๊ป ไม่ชอบ ยาย่า ตูเร่ เขาจึง ซื้อ อิลกาย กุนโดกัน มาเพื่อการนี้ แต่ทว่า อิลกาย กุนโดกัน เจ็บเป็นอาชีพหลัก เล่นบอล เป็นอาชีพรอง ณ เวลานี้ เล่นในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 10 นัดเท่านั้น ทำให้ เป๊ป กลืนเลือดหันไปง้อ ยาย่า ตูเร่ ให้มาเป็นคนคุมเกมให้


แต่ด้วยวอายุอานามของ ยาย่า ที่ย่างเข้า 33 ปีแล้ว ไม่สามารถแบก แมนฯซิตี้ ได้ดั่งเดิมเหมือนหลายปีที่ผ่านมา 


มีเพียง กองกลาง 2 ตำแหน่งที่ บิ๊กเหม่ง เป๊ป ไม่ต้องกังวัลใดๆ เพราะมีทั้ง เจ้าตำนานคนเดิมอย่าง ดาบิด ซิลบา ที่ก็ยังเล่นได้ แม้จะอยู่ในช่วงขาลง และ เบอร์1ของลีก อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ที่กำลังขึ้นหม้อ


ตำแหน่ง วิงไก่แซบ ประกบกองหน้าสองข้าง ณ เวลานี้ ตำแหน่งตัวจริง เป็นของ เลรอย ซาเน่ และ ราฮีม สเตอริ่ง ที่โชว์ฟอร์มได้ดีทั้งคู่ มองดูเหมือนจะดูดี แต่ทั้งสองคน ยังไม่สามารถแพร่อิทธิพลกับทีมมากเท่าที่ควร 

ทั้ง ราฮีม และ เลรอย อายุยังน้อย ยังคงต้องใช้เวลาเพื่อไปถึงระดับเวิลด์คลาส ตำแหน่งนี้ปัญหาไม่อยู่ที่ตัวจริง แต่อยู่ที่ตัวสำรอง เฆซุส นาบาส และ โนลิโต่ ศักยภาพค่อนข้างต่างจากตัวจริงอยู่พอสมควร

บิ๊กเหม่ง สมัยคุมบาร์ซ่า หรือ บาเยิร์น เขามีอะไหล่ ที่สามารถทดแทนกันได้ดีกว่านี้

ตำแหน่งสุดท้าย กองหน้า จริงๆเป็นตำแหน่งที่ไม่ควรจะมีปัญหาอะไรเลย เมื่อมี เซอร์คิโอ อเกวโร่ อยู่ประจำจังก้าอยู่ ใครๆก็รู้ว่า กองหน้าอาร์เจนไตน์ผู้นี้ มีพิษร้ายมากเพียงใด แต่ไม่รู้ เป๊ป คิดอะไรตลบไหน เดอะ กุน เล่นสไตล์ที่ไม่ถูกใจซะงั้น 

ถ้า กาเบรียล เฆซุส ไม่เจ็บหนักไปเสียก่อน เซอร์กุน คงนั่งสำรองยาวๆแล้วแน่

ดูแล้วจบฤดูกาล แมนฯซิตี้ ระเบิดตลาดซัมเมอร์กระจุยการะจายแน่นอน และ สำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เขาเลือกย้ายมาคุม แมนฯซิตี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นทีมที่มีวัถตุดิบพร้อมสำหรับการคุมทีม แต่เล่นมาเล่นไปกลายเป็นว่า แมนฯซิตี้ ไม่มีอะไรพร้อมเลยสำหรับเขา ไม่อยากสร้าง ก็ต้องสร้าง!

เป็นความท้าทายครั้งสำหรับ กุนซือระดับโลก ทุกคนต้องเจอ คือ การผลัดใบนักเตะ ทำยังไงให้ทีมไม่เป๋และกลับมาดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่า คือ เบอร์1เหนือบรรดากุนซือทั้งปวง เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ จึงต้องพา เรือใบสีฟ้า ลำนี้ กลับมาแล่นฉิวให้ได้ ดังที่ผู้คนคาดหวัง เหมือบครั้งที่เขา คุม บาร์เว๋โลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

5 ตัวตายตัวแทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ด้วยสัญญาที่กำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ และด้วยวัย 35 ปี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวความหวังของแมนฯยูไนเต็ด คงมิอาจยืนค้ำฟ้าค้ำแดนหน้าให้... thumbnail 1 summary
ด้วยสัญญาที่กำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ และด้วยวัย 35 ปี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวความหวังของแมนฯยูไนเต็ด คงมิอาจยืนค้ำฟ้าค้ำแดนหน้าให้ทีม ได้ตลอดไป 

ดังนั้นการมองหาตัวแทนของ ชายที่ปลุก ยูไนเต็ด กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในเวลานี้ น่าจะเป็นเรื่องยากถึงยากมาก เราจะมาดูกันว่า จะมีใครบ้างจะอยู่ในข่ายจะเข้ามาแทนเขา


ภาพ twitter/manutd


5. คาริม เบนเซม่า

อดีตเป้าหมายเบอร์ 1 ของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่พลาดหวังไปก่อนที่ ป๋าเฟอร์กี้ จะหันไปคว้า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาแทน ด้วยความที่ คาริม เบนเซม่า และ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยร่วมงานกันที่ รีล มาดริด มาก่อน รู้จักมักคุ้นกันดี และเขาก็เป็นกองหน้าประเภทโป้งปิดบัญชี ที่มีเหลืออยู่ไม่มากในตลาด 

สุดท้ายแล้วถ้าหาใครที่ดีกว่าไม่ได้แล้ว อาจจะทำให้ เฮียมู ตัดลินใจดึงอดีตลูกทีมเก่ามาร่วมทีม และทีมราชันชุดขาว กำลังเข้าสู่ช่วงผลัดใบ มีโอกาสที่พวกเขาจะโละ คาริม เบนเซม่า ออกจากทีมมาแบบง่ายๆ เพื่อเปิดทางให้กับกองหน้ารายใหม่ก็เป็นได้

4. มาร์คัส แรชฟอร์ด

เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหนูมาร์คัส ผู้นี้เคยยืนจังก้าเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมในช่วงท้ายฤดูกาล ในเกมลีก 11 นัด ยิง 5 ประตู ถือว่าเป็นสถิติที่มหัศจรรย์สำหรับเด็กวัย 18 ปี หาก โชเซ่ มูรินโญ่ มอบความไว้วางใจให้เขาส่งลงตัวจริงยาวๆ ดังเช่นที่ หลุยส์ ฟาน กัล ทำแล้ว เขาอาจจะแสดงความสามารถที่แท้จริงพัฒนาก้าวไปเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกก็เป็นได้ 

แต่ก็นั่นแหละตัวเลือกนี้ แม้ไม่ต้องเสียเงิน แต่ต้องแลกด้วยเวลา แฟนบอลปีศาจแดง และ โชเซ่ มูรินโญ่ จะอนทดรอได้นานแค่ไหน เพื่อให้เจ้าหนูมาร์คัส พัฒนาตัวเองให้เก่งกาจ ยิ่งในเวลานี้ทีมต้องการความสำเร็จและผลงานที่จับต้องได้อยู่ด้วย


3. เอดิสัน คาวานี่


หลังจากตกอยู่ภายใต่ร่มเงาของ ซลาตัน ใน PSG ที่ เอดิสัน คาวานี่ ต้องหลีกทางให้ลูกพี่เก่า ยืนเป็นหน้าเป้า ส่วนตัวเองถ่างออกไปเล่นด้านซ้าย ทำให้การผลิตสกอร์ดูน้อยๆไปสำหรับเขา แต่มาบัดนี้ ซีซั่นนี้ เขาได้กลับไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าของทีม และก็ทำได้เป็นอย่างดี

กองเชียร์ PSG แทบจะลืม ซลาตันไปเลย เอดิสัน คาวานี่ ยิงกระจาย นำเป็นดาวซัลโวของลีกอยู่ในเวลานี้ ด้วยรูปร่างของสไตล์การเล่น และพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถ ทดแทน ซลาตัน ที่ปารีสได้ ก็ต้องเชื่อว่า เขาจะทดแทน ซลาตัน ที่แมนเชสเตอร์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

2. แฮร์รี่ เคน

ตัวเลือกสุดเพอร์เฟค สำหรับแมนฯยูไนเต็ด ในการหากองหน้าคนใหม่ เป็นคนอังกฤษ อายุยังน้อย ไม่ต้องพิสูจน์ฝีเท้าอะไรแล้ว เพราะผลงานบ่งบอกได้เป็นอย่างดี แค่ 3 ฤดูกาล เจ้าของฉายา เฮอร์ริเคน ก็ถล่มประตูในลีกไปแล้วถึง 68 (ณ วันที่เขียน) ทำให้เจ้าสถิติยิงมากที่สุดในลีกอย่าง อลัน เชียร์เรอร์ ถึงกับหนาวๆขึ้นมา

แต่การดึงตัว แฮร์รี่ เคน คงไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนครั้งก่อนๆที่ แมนฯยู เคยซื้อนักเตะจาก สเปอร์ ด้วยสถานะในตอนนี้ สเปอร์ กลายเป็นทีมที่เหนือกว่า แมนฯยู ไปเสียแล้ว และซีซั่นนี้ทำท่าว่าจะเป็นซีซั่นที่สามติดต่อกัน ที่ สเปอร์ จบอันดับเหนือกว่า แมนฯยู

ดังนั้นการเปลี่ยนสีเสื้อของ แฮร์รี่ เคน คงยากพอตัว แต่ด้วยพลังเงิน และความยิ่งใหญ่ของสโมสร ก็จะเป็นสิ่งเย้ายวน ล่อใจ ไม่มากก็น้อย

1. โรเมโล่ ลูกากู

อดีตศูนย์หน้าที่ถุกมองข้ามจาก โชเซ่ มูรินโญ่ หากมองถึงตัวแทนที่เพอร์เฟคสำหรับ ซลาตัน อิบราฮโมวิช ต้องยกให้ กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยมผู้นี้คนเดียว ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี หรือจะลากกระชากกินเอง ก็ทำได้ ไม่ต่างจาก ซลาตัน มากนัก

บทพิสูจน์ที่ เอฟเวอตัน เป็นทีมที่ขนาดกลางๆไม่ใหญ่ ไม่ได้มีตัวป้อนบอลระดับเทพเหมือนทีมใหญ่ ตลอด 4 ฤดูกาล เขายิงขึ้นเลข 2 หลัก มาตลอด ถ้าเขาได้รับโอกาสในทีมใหญ่ ก็ไม่พ้นยิ่งกระจายแน่นอน

ที่สำคัญเขามีเอเย่นต์ คือ มิโน ไรโอล่า ที่มีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจอันดีกับ แมนฯยูไนเต็ดอยู่แล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องยากในการทำตัวเขามาที่ ยูไนเต็ด แต่ต้องระวังคู่แข่งอย่าง ยูเวนตุส หรือ บาเยิร์น มิวนิค ที่จ้องตัวด้วยเหมือนกัน