วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

โรนัลโด้กลับแมนฯยู คุ้มยังไง? คุ้มจริงไหม? คุ้มตรงไหน?

คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ตกเป็นข่าวจะกลับมาสวมเสื้อปีศาจแดงอีกครา หลังจากถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี 13 ล้านปอนด์ และไม่ได้เป็นที่รักของแฟนบอลมาดร... thumbnail 1 summary
คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ตกเป็นข่าวจะกลับมาสวมเสื้อปีศาจแดงอีกครา หลังจากถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี 13 ล้านปอนด์ และไม่ได้เป็นที่รักของแฟนบอลมาดริดเช่นดังเดิม

ความจริงเงิน 13 ล้านปอนด์ เดือนสองเดือน โรนัลโด้ ก็หามาจ่ายได้แบบสบายๆแบบเบิร์ดๆ แต่เหตุผลจริงๆที่เขาจะย้ายหนี รีล มาดริด น่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า "ไม่มีความสุข" ในถิ่นเบอร์นาบิวแล้วมากกว่า



ณ ปัจจุบัน ทีมที่มีพลังเงินมากพอจะดีลๆนี้ได้ มีอยู่ไม่เกิน 3 เต็มที่ 2 แมนฯยูไนเต็ด กับ ปารีส 

แต่ถ้าจะให้ทีมไหนมีโอกาสมากที่สุด ทีมนั้นต้องเป็น ผีแดง แน่นอนอยู่แล้ว ด้วยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเก่า ความสัมพันธ์ระหว่าง โรนัลโด้กับแฟนบอล หรือ โรนัลโด้กับผู้นริหาร ล้วนยังแน่นแฟ้นอยู่

และข่าวล่าสุด แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดดีลที่มีมูลค่ามากที่สุด 183 ล้านปอนด์ + ดาบิด เด เคอา เพื่อดึงตัว โรนัลโด้ กลับบ้าน พ่วงด้วย อัลบาโร่ โมราต้า อีกคน 

ตีราคา ดาบิด เด เคอา อยู่ที่ 60 ล้านปอนด์ + 183 = 243 ล้านปอนด์ เฉลี่ยค่าตัว โรนัลโด้ 180 กับ โมราต้า 70 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติค่าตัว พอล ป็อกบา กระจุย

หลายคนอาจจะมองว่าเวอร์.. ไม่มีทางเป็นจริง ขอบอกเลยว่า "ท่านประเมินพลังเอ็ดต่ำไป" ระดับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอมือทองเขามีแผนหาเงินขนาดนี้ได้อยู่แล้ว

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า ซื้อได้ ไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่า คุ้มไม่ ไม่คุ้ม? ตะหาก

โรนัลโด้ อายุ 32 ปี ร่างกายยังดูดีมีพลังก็จริง แต่การกลับมาเล่นพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง จะสร้างภาระทางร่างกายอย่างใหญ่หลวงแน่นอน อย่าลืมว่า โรนัลโด้ ไม่ได้มีสไตล์การเล่นแบบ ซลาตัน เล่นคนละตำแหน่ง

มหาเทพผู้นี้ ต้องกระชากลากเรื้อย ใช้พละกำลังค่อนข้างมาก พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ ลาลีกา ลีกอังกฤษขึ้นชื่อว่าเกมเร็วมีปะทะหนักน่วง

ตัวอย่าง ซลาตัน เป็นหนึ่งคนที่ได้รับการยอมรับว่าดูแลร่างกายดี ไม่ค่อยบาดเจ็บหนักๆ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ประคบประหงมอย่างดี ท้ายซีซั่นยังเข่าพังได้

ฉะนั้นการกลับมาของ โรนัลโด้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ อายุ 32 ปี เล่นแบบเต็มสตรีมได้เต็มที่อย่างมาก 1-2 ปี กับค่าตัวที่ทะลุเพดานไปถึง 180 ล้านปอนด์ นี่ยังไม่รวมค่าเหนื่อยที่คิดแบบแพ็คเกจเหมารวม ที่น่าจะเซ็นกันอย่างน้อย 3 ปี ปีละ 45 ล้านปอนด์ รวม 135 ล้านปอนด์

รวมๆแล้ว โรนัลโด้ คนเดียว แมนฯยูไนเต็ดต้องเสียถึง 315 ล้านปอนด์!!

ในแง่ของฟุตบอลแล้ว ด้วยวัยขนาดนี้ ด้วยค่าตัวขนาดนี้ ต้องบอกว่า ไม่มีทางคุ้มเลย แต่ทว่าในแง่ของธุรกิจแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับเหว

น่าจะจำกันได้ ตอน ซลาตัน ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมเมื่อซีซั่นที่แล้ว เพียงแค่สัปดาห์เดียว ยอดการขายเสื้อเบอร์ 9 ของ ซลาตัน พุ่งถึง 76 ล้านปอนด์ ย้ำว่าแค่สัปดาห์เดียว!!

จน ซลาตัน โพสอินสตราแกรมแซว ป็อกบา ว่า แมนฯยูไนเต็ด เอาเงินที่ขายเสื้อของเขา มาซื้อ ป็อกบา

การกลับมาของ โรนัลโด้ แน่นอนว่าจะต้องใส่ เบอร์ 7 เท่านั้น 

ด้วยตัวนักเตะที่เป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่แล้ว และ เบอร์ 7 เป็นเก่าของเขา เป็นเบอร์ประวัติศาสตร์ของทีม ดังนั้น ยอดขายเสื้อโรนัลโด้ คิดๆแล้วสัปดาห์แรกน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ เผลอๆอาจจะไปแตะ 200 ล้านปอนด์ ได้ก็ได้

ยังไม่รวมของที่ระลึกจิบปะถะอีกยิบย่อย ผ้าพันคอ โมเดล ที่ยังขายได้อีก อีก โรนัลโด้ มีภาพลักษณ์สูงส่ง แมนฯยูไนเต็ด สามารถนำจุดนี้ไปต่อยอดอะไรได้อีกมากมาย

ลึกลงไปการมาของ โรนัลโด้ จะดีดหุ้นของแมนฯยูไนเต็ดให้สูงขึ้นไปอีก ด้วยสถานการณ์ของทีมตอนนี้ที่กำลังไปได้สวย 

ได้แชมป์ 3 ถ้วย และได้กลับไปเล่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก การได้ โรนัลโด้ กลับมา จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ทำให้ทีมมีมูลค่าในตลาดเพิ่มขึ้น

อย่างที่บอกไปในแง่ของธุรกิจ แมนฯยูไนเต็ด มีแต่คุ้มกับคุ้ม !!

สุดท้ายแล้ว เราๆท่านทั้งหลายต้องพึงระลึกไว้เสมอว่านั่น ไม่ใช่เงินเรา อิอิ ไม่ต้องกลัวสโมสรขาดทุน ได้ที่ 7 ไม่ได้เล่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เสียหายย่อยยับก็เคยมาแล้ว 

สิ่งที่แฟนผีแดงควรกลัว คือ กลัว ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ดีกว่า 

นี่แหละสิ่งเดียวที่ แฟนผีแดง ควรกลัวมากที่สุด!!!!!!!!









วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

5 ผู้บริหารฟุตบอลมือทองแห่งยุค

Giuseppe Marotta นี่คือชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ยูเวนตุส ในทศวรรษนี้ ในปี 2010 เขารับงานเป็น CEO ควบตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ของย... thumbnail 1 summary
Giuseppe Marotta

นี่คือชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ยูเวนตุส ในทศวรรษนี้ ในปี 2010 เขารับงานเป็น CEO ควบตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ของยูเวนตุส 


เป็นผู้ให้โอกาส อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุม ยูเวนตุส ในปี 2011 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของสโมสร ด้วยการบริหารงานที่เข้าใจเรื่องของฟุตบอลเป็นอย่างดี ดูได้จากการเปลี่ยนผ่านจาก อันโตนิโอ คอนเต้ มาสู่ มัสสิมิเลียโน่ อัลเลกรี เป็นไปอย่างราบรื่น


การซื้อขายนักเตะ ต้องบอกว่าเขาก้าวขึ้นมาเทียบชั้น ลูเซียโน่ มอจจี้ อดีตผู้บริหารมือทองในตำนานของทีมเรียบร้อยแล้ว ดีล พอล ป็อกบา ได้มาฟรีๆ แต่ขายได้ถึง 89 ล้านปอนด์ บอกอะไรได้เป็นอย่างดี



Ed Woodward


CEO สายเปย์ มือ 1 ในยุคปัจจุบัน ผู้จัดการทีมแมนฯยูไนเต็ด 3 คน ภายใต้การบริหารงานของเขา ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ 


เดวิด มอยส์ อยากได้ ฮวน มาต้า เอ็ดก็จัดให้สถิติสโมสร 38.7 ล้านปอนด์ หลุยส์ ฟาน กัล อยากได้ อังเคิล ดิ มาเรีย เอ็ดก็จัดไปสถิติสโมสร 59.7 ล้านปอนด์ โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้ พอล ป็อกบา เอ็ดก็จัดอีกสถิติสโมสร 89 ล้านปอนด์


นอกจากเปย์เก่งแล้ว การหาเงินก็เก่งเช่นกัน เซ็นสัญญากับอดิดาสด้วยสถิติโลก ทำให้แมนฯยูไนเต็ดที่ไม่ได้เล่นยูซีแอล มีกำไรมากที่สุดแบบที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน ต้องบอกว่าเวลานี้ แมนฯยู ขาดใครก็ได้ แต่ขาด เอ็ด วู้ดเวิร์ด ไม่ได้เลยทีเดียว



Florentino Perez


เจ้าของความคิดที่บรรเจิดที่สุดในโลกฟุตบอล กาลาติกอส ที่รวบรวมเอาบรรดา ซุปเปอร์สตาร์ เข้ามาไว้ในทีมเดียวกัน สร้างแบรนด์ สร้างมูลค่าของทีม


แม้ว่า 2-3 ปีหลังมานี้ เขาจะเพลาๆแนวคิดนี้ลงไปบ้าง เสียสถิติสโมสรที่ซื้อผู้เล่นแพงที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2000 ไปให้แก่ แมนฯยูไนเต็ด ไป แต่อีกไม่ช้าไม่นาน ปฎิบัติการหาตัวตายตัวแทน โรนัลโด้ จะทำให้ ฟลอเลนติโน่ เปเรซ เอาสถิตินี้กลับมาครองอีกครั้ง


ถึงด้วยขึ้นชื่อว่าประธานเจ้าทุ่ม แต่เรื่องการบริหารเขาก็ไม่เป็นที่สองรองใคร ชุดขาวก่อนหน้าเขาจะเข้ามา มีหนี้บานเบอะ แต่เขาก็ล้างให้หมด และ การให้โอกาส ซีเนอดีน ซีดาน ที่ไม่มีอะไรเลย ขึ้นมาคุมทีมเต็มตัว ก็ต้องให้เครดิตเขาไปเต็มๆ



Ferran Soriano


การบริหารงานของ แมนฯซิตี้ เริ่มเป็นรูปเป็นทรงชัดเจนขึ้น เมื่อได้ 2 คู่หู เฟอร์ราน โซเรียโน่ และ ซิกิ เบอร์ริกิสไตน์ ที่เบื้องหลังความสำเร็จของ บาร์เซโลน่า มาบริหารงาน


หากยังจำกันได้เมื่อ ท่านชีค เข้ามาใหม่ๆ ซื้อนักเตะมั่วซั่ว ซื้อดะ ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน แต่นับตั้งแต่ได้สองคู่หูนักบริหารมาทำทีม เรือใบสีฟ้า เริ่มมีทรงมีแนวทาง การซื้อขายนักเตะที่ดูเฉียบขาดมากขึ้น เริ่มรู้จักลงทุนกับอนาคต ไม่สนใจความสำเร็จแบบฉาบฉวย


โดยนับตั้งแต่ ผู้บริหารมือทองรายนี้เข้ามา แมนฯซิตี้ ได้แชมป์ไปถึง 4 ถ้วย และฤดูกาลล่าสุดก็ได้ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เข้ามาคุมทีมแม้จะล้มเหลว แต่เชื่อได้ว่า 3 คนที่เคยทำ บาร์ซ่า ครองจักรวาลมาแล้ว ก็จะทำให้ แมนฯซิตี้ ได้ด้วยเช่นกัน



Antero Henrique


อันเตโร่ เฮนริเก้
ภาพ twitter/PSG_English

ผู้อำนวยการสโมสร ป้ายแดงของ ปารีส แซร์ก แชงแมง อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เขาคือ 1 ในผู้บริหารด้านฟุตบอลที่เก่งที่สุด ชื่อเสียงของเขาเรื่องลือจากการเป็น ผู้อำนวยการให้ เอฟซี ปอร์โต้

ตลอดกว่า 10 ปีที่ เอฟซี ปอร์โต้ 2005-2006 ถึง 2016-17 เขาขายนักเตะได้เงินเกือบ 1000 ล้านยูโร ยกตัวอย่าง เปเป้ แอนเดอร์สัน โฆเซ่ โบซิงว่า ราดาเมล ฟัลเกา ฮัลค์ ฮาเมส โรดริเกวซ เอเลียคิม มองกาล่า นักเตะค่าตัวแพง ล้วนเติบโตมาจาก เอฟซี ปอร์โต้


จัดได้ว่าเขาเป็นผู้บริหารที่มองนักเตะได้เฉียบขาด เรื่องความสำเร็จ นอกจากการซื้อขายนักเตะแล้ว ในยุคที่เขาบริหาร ปอร์โต้ ยังได้แชมป์อีกเป็นกอบเป็นกำ



คลิก >> โรนัลโด้กลับแมนฯยู คุ้มยังไง? คุ้มจริงไหม? คุ้มตรงไหน?

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

5 สิ่งที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องทำ!!

อาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจต่อสัญญากับ อาร์เซน่อล ออกไปอีก 2 ปี แม้ว่าจะพาทีมหลุด ท็อปโฟร์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 และนี่อาจเป็... thumbnail 1 summary
อาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจต่อสัญญากับ อาร์เซน่อล ออกไปอีก 2 ปี แม้ว่าจะพาทีมหลุด ท็อปโฟร์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 และนี่อาจเป็นสัญญาฉบับสุดท้ายของเขา เพื่อพา อาร์เซน่อล กลับไปชูถ้วยพรีเมียร์ลีกอกครั้ง นี่คือ 5 ข้อที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องทำ!!



ภาพ twitter/arsenal


1. วางแผนการเสริมทัพล่วงหน้า 

มีหลายต่อหลายครั้งที่ กุนซือเลือดน้ำหอมผู้นี้มัก "เหวี่ยงแห่" กว้านซื้อนักเตะในวันท้ายๆของตลาด ประมาณ "กำขี้ดีกว่าตด" อะไรทำนองนั้น ยกตัวอย่างใหม่ๆสดๆ เมื่อซีซั่นที่แล้ว เมื่อพลาดตัว อเล็กซอง ลากาแซ็ตต์ ก็หันไปคว้าเอา ลูคัส เปเรซ มาในวันเกือบสุดท้ายของตลาด ผลสุดท้ายคือ แทบจะไม่ได้ใช้งาน สูญเงิน 17 ล้านปอนด์โดยเปล่าดาย

จะได้เหตุผลว่า การซื้อตัวในตอนท้ายๆจะเป็นบีบให้ทีมที่เจรจาด้วยรีบๆขายนั้น เห็นจะใช้แก้ตัวไม่ไ่ด้แล้ว เพราะมีหลายตัวอย่างที่ซื้อมาแล้วล้มเหลว ฉะนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องตัดสินใจให้รวดเร็ว ลิสต์รายชื่อนักเตะที่เป้าหมายให้บอร์ดบริหารจัดการตั้งแต่เริ่มตลาด หากรอสถานการณ์ไปท้าย มีหวังได้ทอดแห่กันอีกแน่นอน

2. ตัดสินใจให้เด็ดขาด!

ระยะหลังมานี้ เรามักจะเห็น อาร์แซน เวนเกอร์ ออกมาครวญคราง บ่นเสียดายอย่างนู้นอย่างนี้ ว่าเขาเกือบจะได้ตัวนักเตะคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อย เมสซี่ โรนัลโด้ เบล โรนัลดิญโญ่ คือหนึ่งในบรรดานักเตะที่มีโอกาสย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อล แต่สุดท้ายก็ต้องพลาดไป ด้วยเหตุใดก็เหตุหนึ่ง

ลองคิดดูเอาว่า ถ้า อาร์แซน เวนเกอร์ ได้นักเตะเหล่านั้นมาร่วมทีมจะบันเทิงเริงใจขนาดไหน ดังนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก เขาต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ต้องไฟต์หน่อย ซื้อคือซื้อ! โดนโก่งก็ต้องสู้! โดนแย่งก็ต้องเกทับ! อยากได้ต้องได้ อาร์เซน่อล ก็ไม่ใช้ทีมจนๆอะไร รวยสุดอันดับ 5 ของโลก ฉะนั้นแล้ว ต้องแสดงศักยภาพออกมา

3. ทิ้งบอลถ้วยไปซะ!

หลายซีซั่นที่ อาร์แซน เวนเกอร์ มุ่งเป้าไปที่ บอลถ้วมากกว่าบอลลีก ไม่ยอมทุ่มสรรพกำลังลงไปที่บอลลีกเต็มตัว เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่ต้องเล่น 4 ถ้วยเต็มๆมาโดยตลอด ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกที่อย่างน้อยจะเข้ารอบ 16 ทีม ลีกคัพที่แต่ก่อนไม่เคยต่ำกว่ารอบ 8 ทีม เอฟเอคัพที่ระยะหลังก็แทบผูกตั๋วปีอยู่ทีเดียว

มาซีซั่นที่จะถึงนี้ อาร์เซน่อล บุญมีแต่กรรมบัง ไม่ได้เล่นถ้วยใหญ่ แต่ดันได้เล่นถ้วยเล็ก ก็เท่ากับว่า 4 ถ้วยเหมือนเดิม โปรแกรมแน่นเอียดดังเดิม ดังนั้นเพื่อให้นักเตะอาร์เซน่อลได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกกันอีกครั้ง กลั้นใจ ทิ้งบอลถ้วยไปให้หมด ทิ้งไปเลย

เอาเชลซีเป็นตัวอย่าง อย่างเอาแมนฯยูเป็นอย่าง อิอิ

4. เพิ่มความเหี้ยมในทีม!!

แฟนบอลปืนใหญ่ ยังคงจำภาพ มาร์ติน คีโอว์น เรย์ พาร์เลอร์ โลรอง เอตาเม่ เข้ามาแหกปาก เยาะเย้ย รุด ฟาน นิสเตอรอย หลังจบเกมที่ อาร์เซน่อล เสมอ แมนฯยู 0-0 โดย รุด ยิงจุดโทษพลาดนาทีที่ 90 เหล่านักเตะปืนใหญ่ต่างกรูเข้ามา โชว์ความห้าว แสดงควาสะใจ

แต่นั่นคืออดีต ปัจจุบันต้องบอกว่านักเตะอาร์เซน่อล "อ่อนปวกเปียก" จะหานักเตะที่มีคาเรคเตอร์ นักสู้ เหมือน โทนี่ อดัมส์ มาร์ติน คีโอว์น ปาทริค วิเอร่า ไม่มีเลย 

อาร์แซน เวนเกอร์ ซื้อ กรานิต ซาก้า เข้ามาเติมเต็มความเหี้ยม แต่คนเดียมันไม่มากพอ ต้องหานักเตะแบบนี้เข้ามาเพิ่ม มิเช่นนั้นแล้ว ก็จะเข้าอีหรอบเดิม เมื่อโดนกดท้ายซีซั่น นักเตะอาร์เซน่อล ก็จะแหย่ง ฟอร์มหลุดไปดื้อๆ 

5. สร้างทีมจากนักเตะอังกฤษ

ด้วยความที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นชาวฝรั่งเศส จึงไม่นิยมนักเตะท้องถิ่นที่เป็นสัญชาติอังกฤษมากเท่าไหร่ ทีมชุดปัจจุบัน ไม่มีนักเตะอังกฤษเป็นตัวจริงเลย!! คีแรน กิ๊บบ์ ธีโอ วัลคอตต์ อเล็กซ์ แชมเบอเลน แดนนี่ เวลเบค ล้วนพลุบๆโผล่ๆ ใน 11 ตัวจริง

และ อาร์เซน่อล ในเวลานี้มีนักเตะจากหลายประเทศรวมกัน ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน อังกฤษ แบ่งกันหลายกลุ่มหลายก้อน ไม่มีกลุ่มไหนแผ่บารมีมากพอจะปกครองกลุ่มอื่นๆ แต่มีนักเตะอังกฤษในทีมเยอะที่สุด

เพอร์ แมร์เตซักเกอร์ ชาวเยอรมัน เป็นกัปตันก็จริง แต่เสียสถานะตัวจริงในทีมไปแล้ว โดยมี โลร็องต์ กอสเซียนี่ รองกัปตันชาวฝรั่งเศส จอคอหอย รอวันเป็นตัวจริง

แต่นักเตะที่กับทีมมานานที่สุดในทีมอย่าง ธีโอ วัลคอตต์ กลับไม่มีตำแหน่ง ทั้งๆที่นักเตะอังกฤษมีมากที่สุด ดังนั้นหากต้องการให้ทีมมีสปิริตมากยิ่งขึ้น การตั้งกัปตันเป็นคนอังกฤษ กลับสู่รากเหง้าของทีม จะเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง