วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไม่อยากสร้าง ก็ต้องสร้าง!!

อยู่ในฟอร์มกระท่อนกระแท่นมากเหลือเกิน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มหาเรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ ที่ล่าสุดกระเด็นตกรอบย... thumbnail 1 summary
อยู่ในฟอร์มกระท่อนกระแท่นมากเหลือเกิน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มหาเรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ ที่ล่าสุดกระเด็นตกรอบยูซีแอล แพ้ โมนาโก 3-1 สกอร์รวม 6-6 ซิตี้ตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล ไปแบบช็อคๆ 

ด้วยผลงานสุดไฉไลนี้ ทำให้ บิ๊กเหม่ง เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เสียรังวัดไปไม่น้อย จริงๆเสียเยอะเลยล่ะ เพราะนับตั้งแต่คุมทีมมา บาร์ซ่า บาเยิร์น เขาไม่เคยพาทีมตกรอบ 16 ทีม ถ้วยใบใหญ่ อย่างน้อยๆรอบ 8 ทีมทุกปี



ภาพจาก twittet/ManCity


เริ่มต้นฤดูกาล เป๊ป พา แมนฯซิตี้ ชนะ 10 นัดรวดทุกรายการ ใครก็ต่างคิดว่า พรีเมียร์ลีก คงมิอาจสร้างปัญหาให้กับความอัจฉะริยะของ บิ๊กเหม่ง ได้


แต่ทว่า ลีกนรกแตกแห่งนี้ ดูเหมือนจะอ่อนน้อมให้ เป๊ป ตายใจเสียก่อน ก่อนที่จะเผยถึงความโหดเหี้ยมที่แท้จริง ของลีกอันดับ1ของโลกให้เห็น 


เล่นไปเล่นมา แผนชนะ10ทิศ ติกิ-ตาก้า ของ เป๊ป เริ่มใช้ไม่ได้ดีอย่างที่เคยเป็น ใจความหลักใหญ่ของ ติกิ ตาก้า ก็คือการ ครองบอล ส่งบอล ซึ่งผู้เล่นแมนฯซิตี้ก็ทำได้ตามแผน 


เห็นจากสถิติ ที่ แมนฯซิตี้ เป็นทีมที่มี %การครองบอลมากที่สุดในลีก 60% ส่งบอลกันแม่นที่สุดในลีก 84% ส่งบอลเฉลี่ย 594 ครั้งต่อเกม เป็นอันดับสองรองจาก ลิเวอร์พูล แค่ 1 ครั้ง

ดูจากสถิติแล้ว นักเตะแมนฯซิตี้ ก็เล่นได้ตามแผนการของ เป๊ป ตามทว่าปัญหา คือ "มันไม่มีประสิทธิภาพ" 


ย้อนอดีต 2 สโมสรหลังของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เขามีเหล่านักเตะชั้นนำของโลก ที่คอยตอบสนองกับ แผนการเล่นของเขา ต่างจาก แมนฯซิตี้ ที่ดูกันตามเนื้อผ้าแล้ว คุณภาพนักเตะเป็นรอง 2 ทีมนั้น จะเรียกได้ว่า คนละเกรดก็ได้


เริ่มจากผู้รักษาประตู บิ๊กเหม่ง ปลด โจ ฮาร์ท กลางอากาศ โดยให้เหตุผลว่า โจ ฮาร์ท ใช้มือเป็นอย่างเดียวใช้เท้าไม่เป็น หมายถึง การเปิดเกมด้วยเท้า มือ1ทีมชาติอังกฤษทำได้ไม่ดีพอ เป๊ป เลยดึง เคลาดิโอ บราวโว่ มาแทน แต่กลับตาลปัตร เคลาดิโอ บราวโว่ ใช้เท้าเป็นแต่ใช้มือไม่เป็น! หลายนัดที่เสียประตูแบบไม่น่าเสีย


มาที่กองหลัง สังเกตุได้จากทุกสโมสรที่คุม บิ๊กเหม่ง ไม่ต้องการกองหลังประเภท พิตบูล ดายฮาร์ด อะไรขนาดนั้น เขาต้องการกองหลังมีชั้นเชิงหน่อย จ่ายบอลได้ดี 


และตามธรรมเนียมของ บิ๊กเหม่ง เขาจะต้องดัดแปลง มิดฟิลด์ตัวรับ มาเล่นกองหลัง ทุกทีมที่คุม เช่น ฮาเวียร์ มาสเคราสโน่ ฆาบี มาร์ติเนซ มาที่แมนฯซิตี้ ผู้โชคดีก็คือ แฟร์นานดิญโญ ที่ถูกจับไปเล่น แม้กระทั้งแบ็คซ้าย ขวา


และถือว่างานช้างงานนึงของ บิ๊กเหม่ง เมื่อ แวงซอง กอมปานี ผู้เป็นเสาหลักของ เรือใบสีฟ้า ดันมาเจ็บหนักในฤดูกาลนี้ 


ตัวใหม่ที่ซื้อมาอย่าง จอห์น สโตน ดูเหมือนจะเข้าท่าเข้าทางอยู่ แต่ขาดความเฉียบในระดับโลก นิโคลาส โอตาเมนดี้ ก็มิได้เล่นในแบบที่แฟนๆซิตี้ คาดหวัง การจับเอา อเล็กซ์ โคลารอฟ แบ็กซ้ายมายืนเซ็นเตอร์ ยิ่งแล้วใหญ่ เลยทีเดียว


แบ็ก 2 ข้างก็อยู่ในขั้นโคม่า อายุเกิน 30 กันทุกผู้ตัวคน พาโบล ซาบาเลต้า กาเอล คลิชี่ บาการี่ ซานย่า กำลังเข้าสู่ปลายอาชีพการค้าแข้ง

กองกลาง 3 มิดฟิลด์ที่คอยคุมจังหวะเกม  คือ ปัญหาใหญ่ที่สุด ของ เป๊ป โดยเฉพาะ มิดฟิลด์ตัวโฮลบอล ตอนอยู่ บาร์ซ่า เขามี "เซอร์จิโอ บุสเกตส์" ตอนอยู่บาเยิร์น บาเยิร์น เขามี "โทนี่ โครส และ ซาบี อลอนโซ่" 


มาที่ แมนฯซิตี้ เป๊ป ไม่ชอบ ยาย่า ตูเร่ เขาจึง ซื้อ อิลกาย กุนโดกัน มาเพื่อการนี้ แต่ทว่า อิลกาย กุนโดกัน เจ็บเป็นอาชีพหลัก เล่นบอล เป็นอาชีพรอง ณ เวลานี้ เล่นในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 10 นัดเท่านั้น ทำให้ เป๊ป กลืนเลือดหันไปง้อ ยาย่า ตูเร่ ให้มาเป็นคนคุมเกมให้


แต่ด้วยวอายุอานามของ ยาย่า ที่ย่างเข้า 33 ปีแล้ว ไม่สามารถแบก แมนฯซิตี้ ได้ดั่งเดิมเหมือนหลายปีที่ผ่านมา 


มีเพียง กองกลาง 2 ตำแหน่งที่ บิ๊กเหม่ง เป๊ป ไม่ต้องกังวัลใดๆ เพราะมีทั้ง เจ้าตำนานคนเดิมอย่าง ดาบิด ซิลบา ที่ก็ยังเล่นได้ แม้จะอยู่ในช่วงขาลง และ เบอร์1ของลีก อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ที่กำลังขึ้นหม้อ


ตำแหน่ง วิงไก่แซบ ประกบกองหน้าสองข้าง ณ เวลานี้ ตำแหน่งตัวจริง เป็นของ เลรอย ซาเน่ และ ราฮีม สเตอริ่ง ที่โชว์ฟอร์มได้ดีทั้งคู่ มองดูเหมือนจะดูดี แต่ทั้งสองคน ยังไม่สามารถแพร่อิทธิพลกับทีมมากเท่าที่ควร 

ทั้ง ราฮีม และ เลรอย อายุยังน้อย ยังคงต้องใช้เวลาเพื่อไปถึงระดับเวิลด์คลาส ตำแหน่งนี้ปัญหาไม่อยู่ที่ตัวจริง แต่อยู่ที่ตัวสำรอง เฆซุส นาบาส และ โนลิโต่ ศักยภาพค่อนข้างต่างจากตัวจริงอยู่พอสมควร

บิ๊กเหม่ง สมัยคุมบาร์ซ่า หรือ บาเยิร์น เขามีอะไหล่ ที่สามารถทดแทนกันได้ดีกว่านี้

ตำแหน่งสุดท้าย กองหน้า จริงๆเป็นตำแหน่งที่ไม่ควรจะมีปัญหาอะไรเลย เมื่อมี เซอร์คิโอ อเกวโร่ อยู่ประจำจังก้าอยู่ ใครๆก็รู้ว่า กองหน้าอาร์เจนไตน์ผู้นี้ มีพิษร้ายมากเพียงใด แต่ไม่รู้ เป๊ป คิดอะไรตลบไหน เดอะ กุน เล่นสไตล์ที่ไม่ถูกใจซะงั้น 

ถ้า กาเบรียล เฆซุส ไม่เจ็บหนักไปเสียก่อน เซอร์กุน คงนั่งสำรองยาวๆแล้วแน่

ดูแล้วจบฤดูกาล แมนฯซิตี้ ระเบิดตลาดซัมเมอร์กระจุยการะจายแน่นอน และ สำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เขาเลือกย้ายมาคุม แมนฯซิตี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นทีมที่มีวัถตุดิบพร้อมสำหรับการคุมทีม แต่เล่นมาเล่นไปกลายเป็นว่า แมนฯซิตี้ ไม่มีอะไรพร้อมเลยสำหรับเขา ไม่อยากสร้าง ก็ต้องสร้าง!

เป็นความท้าทายครั้งสำหรับ กุนซือระดับโลก ทุกคนต้องเจอ คือ การผลัดใบนักเตะ ทำยังไงให้ทีมไม่เป๋และกลับมาดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่า คือ เบอร์1เหนือบรรดากุนซือทั้งปวง เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ จึงต้องพา เรือใบสีฟ้า ลำนี้ กลับมาแล่นฉิวให้ได้ ดังที่ผู้คนคาดหวัง เหมือบครั้งที่เขา คุม บาร์เว๋โลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค